วันพุธที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2557

เทคนิค : การทำความสะอาด ล้าง Sensor (CCD) กล้อง DSLR แบบเสี่ยงตาย ด้วยตัวเอง

เทคนิค : การทำความสะอาด ล้าง Sensor (CCD) กล้อง DSLR แบบเสี่ยงตาย ด้วยตัวเอง



ใช่ครับ อย่างที่เห็นในรูปข้างบน..."ฝุ่น" จำนวน มหาศาลจุด >_< !!! ได้แพร่กระจาย บุกเข้าไปถึง CCD ในกล้องของผมมากมาย...
ผมจึงต้องหาวิธี "กำจัด" มันออกไปซะที เพราะปีสองปีที่่ผ่านมา ต้องทรมานกับการใช้โปรแกรมแต่งภาพ เพื่อลบจุดออกเสมอๆ
ฝุ่นจะปรากฏกายให้เราเห็นได้ง่ายๆ เมื่อเราใช้ค่า f สูงๆ เช่น f22 หรือภาษาชาวบ้านเรียกว่า f แคบๆ นั่นแหล่ะครับ ^^"

ผมก็พยายาม Search ไปเรื่อยเปื่อยใน google นี่แหล่ะครับ เพื่อหาทางแก้ไข @_@" เพราะผมเองก็ไม่เคยและไม่รู้ว่าต้องทำยังไง
ส่วนมากจะแนะนำให้ส่งเข้าศูนย์ ใช้เวลารอประมาณหนึ่ง กล้องก็จะกลับมาสู่สภาพปกติ ^0^

แต่...ส่วนมากอีกที พอถ่ายไปอีกซักพัก ฝุ่นก็จะเข้าไปใหม่อยู่ดี ... ก็ต้องส่งไปเข้าศูนย์ใหม่ >_< !!!
แล้วคนอย่างผม ที่ไม่ค่อยเช็ด ไม่ค่อยดูแลกล้องเลย เก็บทิ้งไว้ที่พื้นรถ จอดตากแดดมาสองปี ถ่ายรูปวันละเป็นพันๆ ใบ
คงจะได้ส่งเข้าศูนย์ทุกวันเป็นแน่แท้... Y_Y ไหนจะฝุ่นจาก...น้ำตก ภูเขา ทะเล สารพัดสารเพ >_< !!!

สุดท้ายผมก็ไปสะดุดตากับวิธีการหนึ่ง ซึ่ง web ฝรั่งบอกว่า "ราคาถูกแต่...ไม่ควรทำ" ก็คือการเอา "เทปกาวลอกฝุ่นออกจาก Sensor" *0* !!!
คือเรื่องมันเป็นอย่างนี้นะครับ การที่เราถ่ายรูป แล้วมองเห็นฝุ่นตรงช่องที่เราส่อง กับ เห็นฝุ่นที่บนรูปถ่าย การเกิดฝุ่นอาจจะคนละที่กัน
หากเราทำความสะอาดเลนส์เอาผ้าเช็ดๆ และก็เปิดกล้องออกเป่าฝุ่นข้างในแล้วหาย ก็เป็นอัน OK ไม่มีปัญหา
แต่ถ้าทำทุกทางแล้ว ฝุ่นยังปรากฏอยู่บนรูป แสดงว่า...ถึงเวลาเจรจากับ Sensor (CCD) แล้วล่ะครับ

จริงๆ มันก็มีอุปกรณ์สำหรับจัดการกับฝุ่นที่ติดอยู่หน้า Sensor (CCD) ขายอยู่นะครับ
ชุดละแค่ไม่ถึงพันบาท Y_Y ใช้ได้หลายครั้ง เกือบๆ สิบครั้งมั้งครับ Y_Y น่าจะปลอดภัย และได้ผลดี

ส่วนผมไม่มีตังค์ครับ (เอาไปซื้อเบยกินหมดแระ) >_< !!!
และก็ไหนๆ เห็นว่าน่าสนุกดี ก็เลยขอลองวิธีเอา "เทปกาวลอกฝุ่นออกจาก Sensor" *0* !!! 555+
มาดูอุปกรณ์ที่ต้องเตรียมครับ... 1. เทปกาว 2. ไม้แคะ หู ... -_- หมดละครับ มีแค่นี้ >_< !!!

web ฝรั่งบอกว่าไม่ควรทำวิธีนี้ เพราะว่าเนื้อกาวจากเทปกาว อาจจะเหนียวติดค้างอยู่แทนฝุ่นครับ
ผมก็เลยแค่ หาๆ เทปกาว ที่...ไม่เหลือคราบกาวติด หลังจากลอกฝุ่นออกแค่นั้นเองครับ
พอดีเวลาผมทำงาน ผ่านๆ มาหลายปี ก็เลยเคยใช้เทปกาวมาแล้วหลายแบบครับ ^_^ แบบ magic tape แจ่มดีครับ

วิธีทดสอบ ก็แค่ไปซื้อๆ มา แล้วเอาไปแปะกระจก แล้วลอกออกครับ ถ้าอันไหนไม่เหลือคราบกาว เราก็ใช้อันนั้น ^^" จบส์!

ปัญหาต่อมาก็คือ ผมไม่รู้จักว่าเจ้า Sensor หรือ CCD และหรืออีกที ตรงจุดที่ผมจะไปยุ่งกับมัน มันคืออัลไล? บอบบางแค่ไหน
น่า กลัวมากไหม หรือแค่สัมผัส ก็ระเบิดตูมมมมมมมมมมมมมม !!! >_< !!! อ่า...ก็เลยต้อง ศึกษามันดูก่อนครับ ผ่านทาง google อีกเช่นเคย

พบว่า เราไม่ได้ไปยุ่งกะ Sensor หรอกครับ เพราะตรงนั้นจะมีอะไรกั้นไว้อีกหลายชั้นก่อนอยู่ดี เขาว่ามันชื่อ Low-pass filter - -"
ซึ่งเอาไว้กรองสัญญาณ ไม่ให้รูปคมมากเกินไปจนดูไม่ได้ จนเส้นๆ เยอะแล้วจะตาลายไม่เป็น ธรรมชาติไรเงี้ยครับ @_@"

ดังนั้น เจ้า Low-pass filter เนี่ย ก็เหมือนกับกระจก เหมือนเลนส์ เหมือนแว่นตา เหมือนหน้าจอโทรศัพท์ทั่วๆ ไป นี่แหล่ะ ^^"
และก็ยากเหมือนกันที่จะทำให้มัน "ใส" "ไร้ร่องรอย" 555+ ส่วนมากจะติดรอยนิ้วมือเราซะก่อนตลอดๆ ครับ

เมื่อรู้ดังนี้แล้ว ก็ทำการปิดบทความนี้ไปซะครับ!!! ^^" 555+ เพราะหากยังฝืนอ่านต่อ ท่านต้องรับผิดชอบสิ่งที่จะเกิดขึ้นเอง
ผมไม่เกี่ยวน๊าาาาาาาา 555+

แต่หากอยากอ่านต่อและทำตาม ตัวท่านจะต้องมีคุณสมบัติดังนี้
1. กล้า ... และ...อ่า...หมดแล้วครับ - -" แค่กล้า..."ก็พอ" เพราะผมก็มั่วๆ เอาด้วยความ "กล้า" นี่แหล่ะครับ
เรามาดูกันว่าเจ้าสิ่งที่ฝุ่นไปรวมตัวกันเกาะอยู่นั้น คืออะไร ขอบคุณภาพจาก Internet นะครับ ผมคงไม่สามารถแยกชิ้นส่วนเองได้ขนาดนี้ - -"
เจ้า low-pass filter คือ แผ่นที่สอง จากทางซ้ายมือนะครับ จะเห็นว่า อีกไกลมากกว่าจะไปถึง Sensor ทางขวาสุด -_-


มาเริ่มกันเลยครับ...เปืดกล้อง แล้วเลือกปุ่มนี้ครับ...Menu Canon เพื่อให้กล้องเปิดช่องให้เราสามารถแหย่เทปกาวเข้าไปได้ - -"
ส่วนของยี่ห้ออื่นๆ เช่น Nikon ลองดูในคู่มือนะครับ ^^" พะดีผมไม่มีอ่ะ...
เลือก Clean Manually แปลว่า...ฉันจะทำความสะอาดเองนะจ๊ะ...ครับ ^^"


เจ้าตัวที่ฝุ่นชอบไปเกาะ ก็คือแผ่นสีใสๆ ข้างในสุดนั่นแหล่ะครับ บางทีมันก็ชอบสะท้อนเป็นสีเขียวๆ ^^"
สังเกตว่า...สภาพของกล้องผม...อ่า...เขรอะๆ เกรอะกรังใช้ได้ครับ ใช้ถ่ายอย่างเดียว ไม่เคยทำความสะอาดใดๆ เลย Y_Y
ถ่ายรูปมาเกือบ 1 ล้านใบแล้วครับ ^^" แหะๆ 3 ปีเต็มๆ...


หากเป็นฝุ่นที่เกาะแน่นๆ หลายๆ ปี หรือพวกละอองเกสรดอกไม้เหนียวๆ หรืออะไรก็ตาม เราจะเป่าไม่ออกหรอกครับ...
ไม่เชื่อท่านลองเป่ากระจกดูครับ คงหมดแรงก่อน กว่าฝุ่นจะปลิวหลุดออกจากกระจก ยิ่งพวกเม็ดเล็กๆ ยิ่งไม่ขยับเบยยย 555+ >_<
สังเกตว่าเลนส์ของผมนั้น ยิ่งเขรอะมากๆ สุดๆ แต่ยังถ่ายรูปได้สวยอยู่นะครับ ^_^


ดังนั้น...ผมจึงใช้มาตราการสุดท้าย..."แบบเสี่ยงตาย" ก็คือเอาเทปใส แปะแล้วลอกออก ทำเบาๆ นิ่มนวลๆ เอาไว้ก่อนครับ
ถึง low-pass filter จะไม่ถลอกง่ายๆ แต่การทำอย่างระมัดระวัง จะช่วยให้เราไม่เผลอทำอะไรหล่นลงไปกระแทกแทนครับ 555+

ใช้..."ไม้แคะหู"...ค่อยๆ แตะเทปกาว เพื่อลอกดึงเอาฝุ่นออก ไม่ใช้เอาไว้เช็ดหรือว่าถูนะครับ ใช้แตะๆ ก็พอ 555+

ทำๆ ไปเรื่อยๆ ครับ จะกี่รอบก็แล้วแต่ปริมาณฝุ่น และ...ความติดแน่นของฝุ่น...ผมทำไปหลายรอบเลยครับ
ทำแล้วถ่ายรูปดู ว่าฝุ่นติดตรงไหนบ้าง ก็ฝึกทำๆ ไป อาการฝุ่นก็ค่อยๆ หายไปๆ ดีขึ้นเรื่อยๆ ครับ

เพราะลงทุนไปแค่ 30-40 บาท แต่ใช้ได้ไม่รู้กี่รอบเหมือนกันครับ >_< !!!

ซึ่ง...สำหรับผม...มันสำเร็จนะครับ ^_^ ฝุ่นจากรูปข้างบนหาย "เกือบ" หมดเบยยยยยยยยยยย ^0^ wowwwwww!!!
ทำให้ความมั่นใจในการถ่ายรูปของผมกลับมาอีกครั้ง หลังจากต้องทุกข์ทนมากว่า 2 ปี Y_Y ผมสามารถถ่ายที่ f40 ได้อีกครั้ง
f40, 1/3200s, iso100 หมุน tele ซูมสุดกระบอก ^0^
(1/3200 = 0.0003 วินาที เร็วมากกกกกกกก)


f36 ครับ...ยิ่งกลับมาถ่ายที่ค่า f มากๆ หรือแปลอีกอย่างว่า f แคบๆ ได้โดยไม่มีฝุ่น ยิ่งโคม่า บ้าถ่ายรูปกว่าเดิมอีกครับ Y_Y
f แคบๆ จะทำให้แสงอาทิตย์ที่ลอดเมฆออกมา กลายเป็นแฉกๆ เลยครับ ^_^


รูปนี้ที่ f29, 1.3s, iso100 ครับ ^^ มีความสุขจริงๆ ครับ กลับมาถ่ายไฟแฉกๆ ได้อีกครั้ง โดยที่ไม่ต้องมานั่งลบฝุ่นเป็นร้อยๆ จุด
ตอนนี้เหลือจุดซ้ายบนเล็กๆ อีกจุดนึง ทางขวาบนอีกจุดหนึ่ง...เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมทำความสะอาดได้ใหม่อีกครับ เทปกาวเหลือเพียบๆ 555+


สรุปนะครับ หากท่าน "กล้า" พอ ก็ตัดสินใจเอาเองครับ ผมไม่เกี่ยวนะ แต่ผมทำแล้วมันโอเค ^^
และต้องคิดด้วยว่า ท่านใช้กล้องและ...ถ่ายรูปเอาไปทำอะไร? เอารููปไปใช้แบบไหน?

เพราะเคยมี web ฝรั่งบอกว่าเทปกาวเนี่ยทำบ่อยๆ จะทำให้สีเพี้ยนๆ ไปประมาณ 6.5 micron ทาง red spectrum @_@"ห
ก็...ประมาณ 0.0065 mm ซึ่งสำหรับผม...อ่า...มันไม่ใช่ตัวเลขที่ทำให้โลกของผมต้องหยุดหมุนอะไรเท่าไหร่...^^"
ถ้าซัก 1 mm น่าจะพอมองเห็น 555+ (แต่คำกล่าวดังว่า ผมหาผล lab รับรองไม่เจอแฮะครัฟ) @_@"

และสำหรับท่านใดที่กังวลเรื่องสีเพี้ยน 0.0065 mm ไปทาง red redspectrum ก็ไม่ควรทำนะครับ เช่นกล้องตัวละแสนกว่าบาทไรเงี้ย 555+
Bye byeee ไปดีกว่าครับ ตัวใครตัวมัน กล้องใครกล้องมันนะฮาฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟ ^0^
และ...ปล. ห้ามเอาไปเถียงกันแล้วก่อมาม่านะครับ บอกแล้วว่า...ตัวใครตัวมัน กล้องใครกล้องมันนะคร๊าฟฟฟฟฟฟ 555+








ที่มา: oknation.net
 
สั่งอัดรูปออนไลน์ / Digital Offset Print / Photo Gift / Photo Book
ได้ที่
www.masterphotonetwork.com


ติดตามข่าวสารและกิจกรรมดีๆ จากมาสเตอร์ได้ที่
Facebook : Master Photo Network   
คำคมที่ใช้ในการถ่ายภาพ , Photo Book, ภาพตลก, ภาพ สวยๆ, ภาพข่าว, ภาพถ่าย, ร้านมาสเตอร์,



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เกี่ยวกับฉัน

รูปภาพของฉัน
"มาสเตอร์" เรามีประสบการณ์ด้านการอัดภาพมายาวนานกว่า 40 ปี โดยเราเป็นรายแรกในประเทศไทยที่ลงเครื่องอัดภาพระบบต่อเนื่อง ซึ่งเป็นจุดกำเนิดของคำว่า "รอรับได้ทันที" ที่ใช้กันแพร่หลายในปัจจุบัน "มาสเตอร์" เป็นรายแรกที่บุกเบิกการอัดภาพระบบดิจิตอลอย่างเป็นระบบและครบวงจร เป็นผู้สร้างมาตรฐานรูปแบบการอัดต่างๆ ในการสั่งอัดรูปดิจิตอล นอกจากนี้ “มาสเตอร์” ยังเป็นผู้สร้างสรรค์งานออกแบบและงานผลิตสิ่งพิมพ์คุณภาพทุกชนิด "มาสเตอร์" เล็งเห็นถึงความสำคัญของการใช้อินเตอร์เน็ตและประโยชน์ที่ลูกค้าได้รับ เว็บไซต์ www.MasterPhotoNetwork.com จึงถูกก่อตั้งขี้นมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2548 และเปิดให้ลูกค้าสามารถอัพโหลดและสั่งอัดภาพผ่านทางหน้าเวปไซต์ในปี พ.ศ.2551 เป็นต้นมา ปัจจุบันมีลูกค้าใช้บริการผ่านระบบออนไลน์ของเราจากทุกภาคทั่วประเทศ เรามีระบบการจัดส่งที่หลากหลายเพื่อความสะดวกสบายของลูกค้า และด้วยพนักงานที่จะคอยดูแลท่านพร้อมเครื่องอัดภาพที่ทันสมัยที่สุด เราสามารถรองรับงานได้ทุกรูปแบบ ลูกค้าจึงมั่นใจได้ว่างานที่ออกไปจากเราจะมีคุณภาพที่เป็นมาตรฐานและส่งตรงถึงมือลูกค้าอย่างแน่นอน